นิว สเปน-โปรตุเกส
Express Holiday
รีวิวโปรแกรมทัวร์
เดินทางเมษายน 2560
ราคา78,900 บาท ไม่รวมค่าวีซ่า ไม่รวมค่าทิปไกด์และคนขับรถบริษัท
สายการบินเอมิเรตส์ (EK)
การจองทัวร์จองกับบริษัท Prime Time Holiday หน้าเว็บมีโปรแกรมให้เลือกหลากหลายดีค่ะ การติดต่อสะดวกและทำได้หลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, Email และโทรศัพท์ พนักงานรับจองบริการดี ตอบทุกคำถามและเอาใจใส่ลูกค้าดี โปรแกรมนี้เป็น join ทัวร์ที่ลูกค้าจากหลายบริษัทมารวมกัน บริษัทที่จัดทัวร์คือ Express Holiday เท่าที่ทราบจากลูกทัวร์แต่ละคนจองมาจากคนละบริษัทไม่ซ้ำกันเลย และราคาอาจจะแตกต่างกันบ้างนิดหน่อยแล้วแต่การต่อรองค่ะ
โปรแกรมทัวร์ค่อนข้างแน่น มีเวลาเที่ยวที่ต่างๆไม่มากเท่าไหร่(ตามสไตล์เที่ยวกับทัวร์) นั่งรถค่อนข้างนาน โดยรวมพาเที่ยวได้ครบทุกที่ตามโปรแกรม มีน้ำแจกวันละ 1 ขวดต่อคน และบางวันมีขนมเล็กๆน้อยๆ
จำนวนลูกทัวร์30 คน รวมไกด์ ถึงจะเป็นกรุ๊ปใหญ่แต่คณะทัวร์น่ารักทุกท่านค่ะ รักษาเวลากันดีมากตรงเวลาเป๊ะ เรียกได้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวมืออาชีพ
หัวหน้าทัวร์มีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี โดยรวมใช้ได้ค่ะ
โรงแรมที่พักโดยรวมค่อนข้างดีค่ะระดับ 4 ดาว แต่ละโรงแรมห้องไม่แคบและไม่เก่า ยกเว้น Novotel La Paz Madrid ไม่แนะนำที่นี่เลยค่ะห้องเก่าและเหม็นอับ ห้องน้ำมีคราบดำสกปรก ส่วนอาหารเช้าโดยรวมทุกโรงแรมดีค่ะ
อาหารเป็นอาหารจีนและฝรั่งสลับกันไป รสชาติมีทั้งอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ไกด์มีบริการน้ำจิ้มแจ่วและซีฟู้ดทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น
รถที่ใช้เดินทางเป็นรถบัสคันใหญ่ เบาะนั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ค่ะ ระยะห่างระหว่างที่นั่งค่อนข้างแคบเอนเบาะได้แค่นิดเดียว และไม่มีที่วางเท้า คนขับรถเป็นชาวสเปน ขับรถเก่งไม่มีหลงทางค่ะ แต่พี่เค้าไม่ค่อยยิ้มแย้มเท่าไหร่
โปรแกรมการเดินทาง
- วันแรก: ออกเดินทาง
- วันที่ 2: ดูไบ – บาร์เซโลนา
- วันที่ 3: มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์- เพนิสโคล่า – บาเลนเซีย
- วันที่ 4: มาดริด (พักค้าง 2 คืน) - พระราชวังหลวง – พลาซ่ามายอร์
- วันที่ 5: โทเลโด - มหาวิหารโทเลโด –Las Rozas Village Outlet – มาดริด
- วันที่ 6: คอร์โดบา – สุเหร่าเมซกีต้า– เซบีญ่า – ชมระบำฟลาเมนโก้
- วันที่ 7: เซบีย่า – มหาวิหารเซบีย่า - หอคอยฆีรัลดา –เมอริด้า – โรงละครโรมัน
- วันที่ 8: เอโวรา –วิหารโรมัน – มหาวิหารเอโวรา -ลิสบอน
- วันที่ 9: มหาวิหารเจอโรนิโม - หอคอยเบเล็ง –ลิสบอน
เริ่มไปเที่ยวกันเลยค่ะ
วันแรก: ออกเดินทาง
นัดหมายเวลา 22.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เจ้าหน้าที่ต้อนรับแจก tag ติดกระเป๋า และกระเป๋าเล็กๆขนาดกระเป๋าเครื่องสำอาง 1 ใบ ในกระเป๋าเอกสาร มี copy passport เล่มโปรแกรมทัวร์ และปากกา
วันที่ 2: ดูไบ – บาร์เซโลนา
01.15 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดย EK แวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบประมาณ 3.30 ชม.
เครื่องบินจาก BKK-DXB, DXB-BCN เป็น A380 ทั้งหมด ประทับใจจอ PTV ที่ใหญ่และชัดมาก ระบบ entertainment (ice)ก็ดีมากค่ะ ไม่มีแจก Amenity kit สำหรับชั้น Economy นะคะ(แอบเสียใจ QR ยังมีแจกเลยอ่ะ)
แวะต่อเครื่องที่ดูไบ ได้ช้อปปิ้งขนมขบเคี้ยวเล็กน้อย ของที่น่าสนใจก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วและอินทผาลัมที่มีให้เลือกมากมายหลายชนิด ช็อกโกแลตนมอูฐก็น่าสนใจค่ะแต่ไม่ได้ซื้อเพราะราคาแพงพอสมควร
ได้เวลาออกเดินทางไปบาร์เซโลนา เดินทางถึงสนามบินบาร์เซโลนา(El Prat Airport) ขอบอกว่าคิวตม.ยาวมากกกกกก เนื่องจากมีแค่ 2-3 ช่องและแต่ละคนตรวจแบบช้าและชิลมากมาย ตรวจไปด้วยคุยกันเองไปด้วยไม่สนใจว่าแถวจะยาวขดไปมาขนาดไหน รอประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง และด้วยเครื่องบินจากดูไบมาบาเซโลนาดีเลย์ประมาณ 1 ชม.ทำให้โปรแกรมวันแรกรวนเล็กน้อยคือไม่ได้ไปเดินที่ถนน La Rambla เสียดายมากๆเลยค่ะ
บ่าย
หลังจากผ่านตม.ออกมาแล้วก็ขึ้นรถบัสไปยอดเขา Mont Juic กันค่ะ
ผ่านชม Font Magica Magic Fountain
แวะสนามกีฬาโอลิมปิค 1992
ชมวิว บนเขา Mont Juic เห็น Sagrada Familia ลิบๆมั้ยคะ
หลังจากนั้นเดินทางไปชมอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์โคลัมบัส ด้านหน้าของอนุสาวรีย์เป็นท่าจอดเรือและมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังคือถนน La Lambra ซึ่งไม่ได้ไป (อยากจะแอบวิ่งหนีไกด์ไปจริงๆเลย)
อาหารเย็น
ได้เวลาเดินทางไปรับประทานอาหารเย็น มื้อนี้เป็นอาหารจีนค่ะ รสชาติดีทีเดียว
ระหว่างทางไปร้านอาหารก็จะผ่านตึกหน้าตาแปลกๆที่เป็นผลงานของเกาดี้
ที่พัก
เข้าพักที่โรงแรม HOTEL FIRA CONGRESS
โรงแรมนี้มี Carrefour และ IKEA อยู่ใกล้ๆสามารถเดินไปได้ มีเวลาไปได้แค่ที่เดียวเลยเลือกไป Carrefour ค่ะ ของถูกมากๆ สตรอเบอรี่ลูกใหญ่ๆ 500 กรัม ราคา 0.89 เหรียญเอง ในตึกเดียวกันมี ZARA ร้านใหญ่พอสมควร และมีร้านค้าอื่นๆด้วย Carrefour ปิด 22.00 น.ถ้ากลับมาถึงโรงแรมไม่ค่ำเกินไปแนะนำให้ไปค่ะ
วันที่ 3: มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์- เพนิสโคล่า – บาเลนเซีย
เช้า
เดินทางไปชม Sagrada Familia ถ่ายรูปด้านนอก ไกด์จะปล่อยอิสระให้เดินชมเอง แนะนำเดินชมให้ครบรอบจะได้เห็นความแตกของแต่ละด้านค่ะ
ออกเดินทางสู่เมือง Peniscola เมืองที่ถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งทะเล(City of the Sea)” ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
อาหารกลางวัน
รับประทานอาหารกลางวันที่เมืองนี้ มื้อนี้เป็นสเต็กปลา ปลาสดอร่อย มันบดอร่อยมาก
วิวหน้าร้านอาหาร
บ่าย
เข้าชม Peniscola Castle ปราสาทที่ตั้งอยู่ริมทะเลที่ถูกสร้างโดยอัศวินเทมพลาร์ในสมัยศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้เป็นที่ตั้งในการสร้างกองกำลังและป้องกันชาวมุสลิมบุกมายังคาบสมุทรไอบีเรียอีกทั้งยังเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกซ์ที่13 ในศตวรรษที่ 15 อีกด้วย
เดินทางสู่ เมืองบาเลนเซีย (Valencia) (ระยะทาง 145 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)
แวะถ่ายรูปกับหอคอยเซอรานอซ (Tower of Seranos) หนึ่งในสิบสองประตูของกำแพงเมืองโบราณเมืองบาเลนเซีย ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงสองประตูเท่านั้น
อาหารเย็น
ที่พัก
เข้าพักที่โรงแรม HOTEL BARCELO VALENCIA โรงแรมนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ The City of Art and Science สามารถเดินมาชมและถ่ายรูปได้ บรรยากาศตอนเย็นๆดีทีเดียวค่ะ และบริเวณนั้นยังมีสวนสาธารณะ Jardines de Turia ซึ่งเกิดจากการถมแม่น้ำ Turia เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม เป็นสวนสาธารณะที่ยาวมากๆและมีสะพานพาดผ่านหลายสะพานเนื่องจากเคยเป็นแม่น้ำมาก่อน คนสเปนนอนดึกมากค่ะ 4 ทุ่มแล้วยังวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะกันอยู่เลย
The City of Art and Science
โรงแรม BARCELO VALENCIA
โรงแรมดีค่ะ ค่อนข้างใหม่ ห้องสะอาดและไม่คับแคบ
วันที่ 4: มาดริด (พักค้าง 2 คืน) - พระราชวังหลวง – พลาซ่ามายอร์
เช้า
เช้านี้เดินทางไกลไป Madrid กันค่ะ ระยะทาง 355 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ช.ม. ระหว่างทางก็จะมีการแวะพักรถและให้เข้าห้องน้ำตามปั๊มซึ่งปั๊มที่สเปนและโปรตุเกสไม่ต้องเสียค่าเข้าห้องน้ำค่ะ
บางปั๊มที่ใหญ่หน่อยก็จะมีขายอาหารด้วย ไกด์แนะนำให้ลองกินหมูสามชั้นทอดกรอบ อร่อยดีค่ะกรอบๆเค็มๆมันๆ
อาหารกลางวัน
เดินทางต่อไปยัง Madrid และรับประทานอาหารกลางวันเป็นอาหารจีน แต่ร้านนี้มีผัดกระเพาหมูสับด้วยค่ะ รสชาติคือหวานมากกกก เหมือนพ่อครัวทำน้ำตาลหก แต่อาหารจีนอย่างอื่นใช้ได้ค่ะ
บ่าย
รับประทานอาหารเสร็จแล้วเข้าชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้า แมนซานาเรส พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปีค.ศ. 1738 ด้วยหินท้ังหลังในสไตล์บาโรค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียนประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง แต่ละห้องสวยงามและตกแต่งต่างกันไป ด้านในพระราชวังห้ามถ่ายรูปค่ะ
จากนั้นเดินทางไปที่ พลาซ่า มายอร์ (PlazaMayor) ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือประตูพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นจตุรัสใจกลางเมือง นับเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปน ไกด์จะปล่อยอิสระ มีร้านค้ามากมายสามารถช้อปปิ้งได้ที่นี่ค่ะ
ในโปรแกรมเขียนว่าอิสระและช้อปปิ้งตามอัธยาศัยแบบเต็มๆ แต่จริงๆแล้วมีเวลาประมาณชั่วโมงเดียวเท่านั้นเอง
Longchamp ในห้าง El Corte Inglés ที่นี่มีพนักงานเป็นคนลาวแต่พูดภาษาไทยได้ด้วยนะคะ
อนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมือง
อาหารเย็น
รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารท้องถิ่น มื้อนี้เป็นขาหมูค่ะ จัดไปคนละ 1 ขา รสชาติอร่อยเนื้อหมูนุ่ม หนังกรอบ แต่หมูของเค้ากลิ่นค่อนข้างแรงกว่าบ้านเรา คนที่ไม่ชอบกลิ่นแบบนี้ก็จะไม่ชอบไปเลย กินไปเยอะๆก็เริ่มเลี่ยนต้องใช้ตัวช่วยคือน้ำจิ้มแจ่วนั่นเองค่ะ
ที่พัก
เข้าพักที่โรงแรม Novotel La Paz Madrid โรงแรมนี้ค่อนข้างเก่า ห้องเหม็นอับ พื้นเป็นพรหมเก่าๆ ห้องน้ำก็มีคราบดำๆสกปรก เตียงเสริมก็นอนไม่สบายเอาซะเลย ตอนแรกเห็นชื่อ Novotel ก็คิดว่าจะดีแต่ไม่เลยค่ะ แต่อาหารเข้าของที่นี่ใช้ได้ค่ะ
ใกล้ๆโรงแรมมี Super market อยู่ 2-3 แห่ง สามารถเดินไปได้ลองดูจาก Google Map ได้ค่ะ
เนื่องด้วยเวลาช้อปปิ้งและเดินเล่นเมื่อเย็นน้อยเกินไป เราจึงจะกลับไปแถว Plaza Mayor กันค่ะ555
จากโรงแรมจะมีป้ายรถเมล์สามารถขึ้น ต่อเดียวแล้วถึงเลย หรือจะเดินไปขึ้นรถใต้ดินก็ได้แต่ไกลหน่อยค่ะ เราเลือกเดินไปขึ้นรถใต้ดินเพื่อจะได้ไปดูด้านหน้าสนามสู้วัวกระทิงที่อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ แนะนำว่านั่งรถเมล์จะดีกว่าค่ะเพราะสถานีรถไฟใต้ดินเดินไกลมากๆ
วิธีซื้อตั๋วรถไฟก็ไม่ยากค่ะ ที่ตู้มีภาษาอังกฤษทำตามขั้นตอนได้เลย รถไฟที่นี่ปิดเที่ยงคืนนะคะ
บรรยากาศยามค่ำคืนคนเยอะเลยทีเดียว มี street show หลายโชว์เลยค่ะ แต่ร้านค้าปิดหมดแล้วจะเหลือแต่พวกร้านขายของที่ระลึกต่างๆ บางร้าน 23.00 ยังเปิดอยู่ และมีร้านอาหาร ผับ บาร์ สามารถไปนั่งดื่มได้ค่ะ
วันที่ 5: โทเลโด - มหาวิหารโทเลโด –Las Rozas Village Outlet – มาดริด
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เดินทางสู่เมืองโทเลโด (Toledo) (ระยะทาง 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) อดีตเมืองหลวงเก่าของสเปนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่13 เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน
อาหารกลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน มื้อนี้เป็นข้าวผัดสเปนค่ะ มีไวน์ให้โต๊ะละ 2 ขวด
ข้าวผัดสเปนมาเป็นถาดใหญ่ๆแล้วมีพนักงานตักแบ่งให้ รสชาติส่วนตัวว่าเฉยๆค่ะ อยากได้น้ำปลาพริก5555
บ่าย
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว เข้าชมความงามของ มหาวิหารโทเลโด (Toledo Cathedral) สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน แต่เดิมชาวมุสลิมใช้เป็นสุเหร่า ต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปี ถัดมา
เดินทางสู่ Las Rozas Outlet Village (ระยะทาง 95 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) มีสินค้าแบรนด์ต่างๆ เช่น Armani, Burberry, Bvlgari, Gucci, Geox, Lacoste, Loewe, Michael Kors,New Balance, Onitsuka Tiger, Polo Ralph Lauren, Samsonite, Timberland ของที่นี่ราคาถูกเป็นบางอย่างค่ะ แนะนำ Polo Ralph Lauren และ Camper แต่มีแบบให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่ บางแบบที่ลดเยอะๆก็มีไซส์ไม่ครบ
อาหารเย็น
ที่พัก
วันที่ 6: คอร์โดบา – สุเหร่าเมซกีต้า– เซบีญ่า – ชมระบำฟลาเมนโก้
เช้า
เดินทางสู่“เมืองคอร์โดบา” (Cordoba) (ระยะทาง 397 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ช.ม.) ครั้งหนึ่งเคยถูกครอบครองโดยชาวโรมันและชาวมัวร์จากอาหรับ เมืองคอร์โดบาตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดัลกีเบีย เป็นเมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรมมุสลิมในประเทศสเปน องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองคอร์โดบาเป็ นเมืองมรดกโลกของประเทศสเปน
เข้าชม มัสยิด (สุเหร่า) เมซกีต้า
อาหารกลางวัน
รับประทานอาหารกลางวันที่เมือง Cordoba มื้อนี้เป็นอาหารท้องถิ่นเป็นไก่คล้ายๆไก่อบราดซอส รสชาติอร่อย ไก่เปื่อยนุ่มดีค่ะ
บ่าย
อาหารเย็น
รับประทานอาหารค่ำพร้อมชมโชว์ระบำฟลาเมนโก อาหารเป็นสลัดผัก เสต็กหมู และไวน์ค่ะ
ที่พัก
เข้าพักที่โรงแรม AC HOTEL SEVILLA FORUM BY MARRIOTT
โรงแรมดีค่ะ ห้องใหม่ สะอาด เตียงนุ่มสบาย แต่อยู่ไกลจากเมืองไปหน่อย อาหารเช้าค่อนข้างน้อย
วันที่ 7: เซบีย่า – มหาวิหารเซบีย่า - หอคอยฆีรัลดา –เมอริด้า – โรงละครโรมัน
เช้า
เข้าชมปลาซาเดเอสปาญา (Plaza De Espanya) ชมกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมซึ่งรวมเอาความเป็น
สถาปัตยกรรมแบบสเปนที่เรียงต่อกนั เป็นแนวยาวแต่ละซุ้มโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร
จากนั้นเข้าชมมหาวิหารแห่งเมืองเซบีย่า ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม รองจากมหาวหิารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน ภายในใหญ่และสวยงามมากโดยเฉพาะที่เพดานค่ะ
ชมและถ่ายรูปกับหอคอยฆีรัลดา (Giralda Tower)บนหอคอยสามารถขึ้นไปชมวิวได้ เดินวนขึ้นไปทั้งหมด 35 ชั้น เหนื่อยใช้ได้เลยค่ะ
อาหารกลางวัน
บ่าย
เดินทางสู่ เมืองเมอริด้า (Merida) (ระยะทาง 201ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ช.ม.)
เมืองแห่งนี้ยังคงความสมบูรณ์ของตัวเมืองโรมัน เอาไว้ไม่ว่าจะเป็นโรงละคร สะพาน ท่อส่งน้า และวิหารต่างๆ องค์กร UNESCO ได้ประกาศให้เป็น มรดกโลกในปี ค.ศ.1993
เข้าชมโรงละครโรมัน (Teatro Romano) สามารถจุคนได้ถึ 6,000 คน โดยสร้างตามแบบโรงละครโรมันในเมืองปอมเปอี
อาหารเย็น
ที่พัก
วันที่ 8: เอโวรา –วิหารโรมัน – มหาวิหารเอโวรา -ลิสบอน
เช้า
เดินทางข้ามพรมแดนประเทศสเปน-โปรตุเกส สู่เมืองเอโวรา (Evora) (ระยะทาง 102ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ช.ม.) ชมวิหารโรมัน (Roman Temple)
จากนั้นเข้าชมมหาวิหารเอโวรา (Evora Cathedral)
ทีเมืองนี้ของที่ขึ้นขื่อคือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้คอร์กค่ะ
อาหารกลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
มือนี้เป็นไก่ค่ะ พนักงานจะตักแบ่งจากถาดใหญ่ใส่จานให้ สามารถเติมได้ด้วยค่ะ
บ่าย
เดินทางสู่เมืองลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกส (ระยะทาง 131 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม)
เข้าสู่ถนนคนเดิน (Walking street) ตรงนี้จะปล่อยอิสระให้ช้อปปิ้งประมาณ 1.30 ชั่วโมงค่ะ มีร้านค้าต่างๆมากมาย มีร้านขนมพื้นเมืองขายหลายร้านแนะนำให้ลองชิมค่ะ
อาหารเย็น
ที่พัก
เข้าพักที่โรงแรม HOTEL ALTIS
โรงแรมนี้ดีมากค่ะ เป็นโรงแรม 5 ดาว และเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในทริป ห้องสะอาด เตียงนอนสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องดีมาก และอาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลายมากค่ะ
ที่โปรตุเกสมีห้าง Centro Colombo ปิดเที่ยงคืน คืนนี้เราจะไปช้อปปิ้งส่งท้ายกันค่ะ
จากโรงแรมเดินไปขึ้นรถใต้ดิน Blue Line ที่สถานี Avenida ไปลงที่สถานี Colégio Militar/Luz ขึ้นมาก็เจอห้างเลยค่ะ
การซื้อตั๋วก็ไม่ยากสามารถซื้อได้ที่ตู้อัตโนมัติ มีภาษาอังกฤษทำตามขั้นตอนได้เลย ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติที่นี่ไม่รับแบงค์ใหญ่กว่า 20 ยูโร
ขากลับอย่าลืมเตรียมแบงค์ย่อยก่อนเข้าสถานีนะคะเพราะบริเวณสถานีไม่มีให้แลกค่ะ
ห้างใหญ่มากกกกก ด้านในมี Supermarket ใหญ่มากๆ และร้านค้าอื่นๆมากมาย มี ZARA และ Longchamp นะคะสามารถมาเก็บตกที่นี่ได้ (รถใต้ดินปิดเที่ยงคืนนะคะอย่าช้อปเพลินล่ะ)
วันที่ 9: มหาวิหารเจอโรนิโม - หอคอยเบเล็ง –ลิสบอน
เช้า
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริป เครื่องออกเวลา 14.15 น.ค่ะ ช่วงเช้าก่อนขึ้นเครื่องเราจะไปเที่ยวกันก่อนเล็กน้อย
รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเดินทางไปชมมหอคอยเบเล็ง (Belem Tower) และต่อด้วยเข้าชมมหาวิหารเจอโร นิโม
ไกด์พาไปแวะซื้อทาร์ตไข่เจ้าดังที่อยู่ใกล้ๆมหาวิหารด้วยค่ะ รสชาติอร่อยสมคำร่ำลือ
และบริเวณสวนสาธารณะใกล้ๆกันนั้นมีศาลาเรือนไทยที่สร้างเป็นที่ระลึกความสัมพันธ์ไทยกับโปรตุเกส
เดินทางกลับ
11.00 น. ได้เวลาเดินทางสู่สนามบินลิสบอน (LIS) เพื่อเช็คอินและทำ Tax refund
แถวทำ TAX refund ค่อนข้างยาวค่ะ เจอกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจีนพอดี ใบเสร็จของแต่ละคนเป็นปึกใหญ่ๆเลยใช้เวลานานหน่อย
- ก่อนเช็คอินให้แยกของที่จะขอคืนภาษีออกนะคะอย่าเพิ่งโหลดเพราะต้องนำไปโชว์เจ้าหน้าที่ด้านใน
- ถ้าเราซื้อของชิ้นใหญ่ที่ต้องใส่กระเป๋าเดินทางและโหลดให้เราบอกเจ้าหน้าที่ที่เค้าน์เตอร์เช็คอินว่าในกระเป๋ามีของที่จะทำ TAX refund ยังไม่โหลดกระเป๋าใบนั้น
- เจ้าหน้าที่จะแปะ Tag ให้ที่กระเป๋าเดินทาง เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วให้แล้วลากกระเป๋าเดินทางไปที่เค้าน์เตอร์ขอคืนภาษีเพื่อตรวจใบเสร็จและของที่เราซื้อมา
- การขอดูของแล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ว่าจะขอดูหรือไม่บางคนก็ตรวจละเอียดบางคนก็ไม่ขอดูเลย
- พอเจ้าหน้าที่ตรวจเสร็จแล้วจะโหลดกระเป๋าของเราเข้าไปที่ช่องนี้ค่ะ หรือหากเป็นของที่ต้องการถือขึ้นเครื่องก็ถือไปได้เลย
- เมื่อเจ้าหน้าที่ stamp ใบเสร็จเรียบร้อยก็เข้าไปด้านในเพื่อนำใบเสร็จที่ stamp แล้วไปรับเงินที่เค้าน์เตอร์ Global Blue หรือ Premier Tax Free(อยู่ตรงข้ามกันเลย)แล้วแต่ว่าร้านค้าที่เราซื้อใช้บริการกับเจ้าไหนค่ะ
14.15 น. ได้เวลากลับบ้านแล้วค่ะ ออกเดินทางจากลิสบอนโดยสายการบิน Emirates (Boeing 777-300)
01.10 น. เดินทางมาถึงดูไบ แวะเปลี่ยนเครื่อง
03.40 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย (A380)
12.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
จบโปรแกรม
หวังว่าจะเป็นข้อมูลท่องเที่ยวกับทัวร์ได้ไม่มากก็น้อย ถ้าอ่านจบแล้วอยากไปเที่ยวบ้าง ลองไปหาข้อมูลไว้ก่อนได้นะ จะไป ทัวร์สเปน ทัวร์โปรตุเกส หรือ ทัวร์ไปทั้งสเปนและโปรตุเกส ดี
ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวกับทัวร์บริษัทไหน ก็เข้าไปค้นหาโปรแกรมทัวร์ได้เลยที่ ThaiTourFinder.com แค่เลือกประเทศที่จะไป ระบุเดือนที่ออกเดินทาง และงบประมาณว่าไม่เกินเท่าไหร่
หากใครมีข้อเสนอแนะ บอกให้เรารู้ได้เลย